สินค้า OTOP และสินค้าท้องถิ่นจังหวัดกำแพงเพชร
กล้วยกวนตองแก้ว กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเกาะน้ำโจนสามัคคี จัดตั้งกลุ่มขึ้นเมื่อ วันที่ 23 ธันวาคม 2543 ซึ่งมีจำนวนสมาชิก 30 คน โดยการรวมตัวกันเองของชาวบ้านในหมู่บ้านเกาะน้ำโจนเนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ในชุมชนประกอบอาชีพทำนาทำไร่ และมีเวลาว่างหลังจากการทำไร่ทำนาเลยรวมตัวกันเพื่อปรึกษาหารือเพื่อประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว โดยการนำของ นางสาวรุ่งนภา ไหววิจิตร จึงได้ขอการสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชรเพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาอบรมการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากวัตถุดิบในท้องถิ่นมีจำนวนมาก เช่น กล้วย ส้มโอ เป็นต้น จึงได้นำมาแปรรูปเป็น กล้วยกวนและส้มโอกวนและพัฒนาเป็นสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดกำแพงเพชรอีกอย่างหนึ่ง
กระยาสารทเป็นขนมหวานของไทย ทำจากถั่ว งา ข้าวคั่ว มาผัดกับน้ำตาล มักจะทำกันมากในช่วงสารทไทยแรม 15 ค่ำ เดือน 10 และบางท้องถิ่นนิยมรับประทานกับกล้วยไข่ มีกล่าวถึงในนิราศเดือนของนายมีว่าเมื่อเดือนสิบเห็นกันเมื่อวันสารท ใส่อังคาสโภชนากระยาหารกระยาสารท กล้วยไข่ใส่โตกพาน พวกชาวบ้านถ้วนหน้าธารณะกระยาสารทเป็นสัญลักษณ์ของ ผลิตผลทางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ รวมทั้งเป็นการทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ข้าวในนา ซึ่งเป็นการเก็บ พืชผลครั้งแรกอีกด้วย
นอกจากนี้ ทางจังหวัดกำแพงเพชรได้จัดงานกวนกระยาสารท กล้วยไข่มาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็นต้นมา ในวันงานจะมีกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ทอดผ้าป่าแถว การประกวดพืชผลทางการเกษตร เช่น กล้วยไข่ รวมทั้งการแสดงสินค้าพื้นเมืองด้วย
สินค้า OTOP และสินค้าท้องถิ่นจังหวัดชัยภูมิ
หม่ำ OTOP ของดีเมืองชัยภูมิ
หม่ำชัยภูมิ ได้ขื่อว่า "หม่ำตำนานรัก”แห่งเดียวของไทย ที่พรานป่าไปล่าสัตว์บนภูเขียว –ภูคิ้งในอดีต ซึ่งต้องใช้เวลานาน 1-3 เดือน ในการเดินทางไป-กลับ พอล่าสัตว์ป่าได้ ก็คิดหาวิธีถนอมอาหารมาฝากลูก-เมีย ที่รออยู่บ้าน โดยที่เนื้อสัตว์ไม่เน่าเสีย พรานจึงสับเนื้อ ผสมตับ คลุกข้าวเหนียวและเกลือที่พกติดตัวไป ยัดใส่ในกระเพาะของสัตว์ หรือลำไส้ของสัตว์ เพื่อหมักหรือถนอมให้เก็บไว้ได้นาน เพื่อเป็นของฝากภรรยา พอกลับถึงบ้านนำมาชิม ปรากฏว่า มีรสชาติอร่อย เป็นที่ชอบใจภรรยา จึงถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นและเป็นอาหารพื้นบ้านที่นิยมรับประทาน สืบมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ – ปัจจุบัน "หม่ำ” จึงเป็นอาหารพื้นเมืองชัยภูมิ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยในปัจจุบันนิยมทำจากเนื้อวัว หรือเนื้อหมู ผสมกับตับ กระเทียม เกลือ บดให้ละเอียด บรรจุไว้ในกระเพาะสัตว์ เนื่องจากเป็นการแปรรูปอาหารจากภูมิปัญญาที่เก็บไว้นานถึง 3 เดือน เป็นที่นิยมบริโภคมากที่สุดทั้งในและต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสานและนิยมซื้อเป็นของกินของฝากชั้นนำสัญลักษณ์ที่สำคัญจังหวัดชัยภูมิ เพื่อเป็นสินค้าที่ระลึก
ส่งผลให้หม่ำ เป็นสินค้า OTOP ประเภทอาหารพื้นบ้านที่สำคัญ ได้รับการรับรองตราอาหารปลอดภัย และ อย. จาก สสจ.ชัยภูมิ จุดเด่น หม่ำชัยภูมิ เป็นพก โดยใช้กระเพาะหมู บรรจุเพื่อให้เก็บรักษาคุณภาพได้นาน และรสชาติอร่อย แหล่งผลิตและจำหน่ายที่มีชื่อเสียงได้แก่ที่บ้านบัว อ.เกษตรสมบูรณ์ , อ.ภูขียว, ช่องสามหมอ อ.คอนสวรรค์ และ บริเวณห้าแยกโนนไฮ เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ
ผ้าไหมบ้านเขว้า โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าไหม อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ มีความสวยงาม และคุณภาพ OTOP ระดับ 5 ดาว ราคาถูก คุณภาพเยี่ยม ส่งออกทั่วโลก มีทั้งเสื้อ กางเกง กระโปง กระเป๋า และอื่นๆ มากมาย
บ้านโนนม่วง เป็นหมู่บ้านที่มีมะม่วงแก้ว มากเหมือนชื่อหมู่บ้าน บรรพบุรุษในสมัยก่อนจึงทำมะม่วงแช่อิ่มเพื่อเก็บไว้รับประทานในฤดูขาดแคลน จึงเป็นการสืบทอดภูมิปัญญามาจากสมัยบรรพบุรุษสู่รุ่นลูกหลานในปัจจุบัน และพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้มีรสชาด เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมาจนถึงปัจจุบัน
ผ้าไหมมัดหมี่อำเภอบ้านเขว้า เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน ควบคู่กับชุมชนอำเภอบ้านเขว้ามาตั้งแต่อดีตกาล ซึ่งเริ่มมาจากการทอผ้าเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันจากปู่ยา ตายาย สู่ลูกหลาน เป็นการสืบทอดภูมิปัญญามาจากบรรพบุรุษ ที่นำมาพัฒนาจนถึงปัจจุบัน เน้นความปราณีต สวยงาม ละเอียดอ่อน ลวดลายบนพื้นผ้าได้แนวคิดมาจากการดำรงชีวิตที่อาศัยธรรมชาติที่อยู่รอบข้างมาเป็นแบบในการคิดลวดลายผ้า ซึ่งผ้าไหมมัดหมี่เป็นผ้าที่มีคุณค่าในอดีตกาลนิยมใส่ไปในงานพิธีที่เป็นศิริมงคล ผ้าไหมมัดหมี่จึงเป็นศิริมงคลแก่ผู้สวมใส่
สินค้า OTOP และสินค้าท้องถิ่นจังหวัดสุพรรณบุรี
จังหวัดสุพรรณบุรีมีหัตถกรรมพื้นบ้าน สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกที่เป็นของฝากที่ขึ้นชื่อ เช่น เครื่องจักสาน ประเภทไม้ไผ่และหวายโดยเฉพาะลายดอกพิกุล ลายดอกลั่นทม และหนามทุเรียนสุพรรณเป็นลายที่มีความสวยงามและประณีต มีที่อำเภอสองพี่น้อง อำเภออู่ทอง อำเภอเดิมบางนางบวช เครื่องทองเหลือง มีที่อำเภอดอนเจดีย์ เครื่องเบญจรงค์ มีที่อำเภอเมือง ผลิตภัณฑ์จากผักตบชวาและการทอผ้า มีที่อำเภอเมือง อำเภออู่ทอง อำเภอสองพี่น้องนอกจากนี้ยังมีอาหาร ขนม ของฝาก ได้แก่ ขนมสาลี่สุพรรณเนื้อเบานุ่ม รสชาติกลมกล่อม และขนมไทยอื่น ๆ แห้วกระป๋อง หน่อไม้กระป๋อง เห็ดโคน เป็ดย่างน้ำผึ้ง ปลาม้า ไก่อบฟาง ปลาแดดเดียว เนื้อแดดเดียว มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ แบ่งเป็นแต่ละ อำเภอ
ประกอบความสำเร็จ (Key Success Factors) ในการจัดตั้ง บริหาร จัดการ และจำหน่ายสินค้า OTOP ที่ศูนย์ต่างๆ ดังนี้
1. วัตถุประสงค์หลัก
เป็นศูนย์เพื่อขายส่ง หรือขายปลีก หรือส่งออก เป็นศูนย์รวมของจังหวัดหรือเป็นศูนย์ของอำเภอ หรือเป็นศูนย์ประจำแหล่งท่องเที่ยว
2. สถานที่ตั้งของศูนย์ (Location)
สถานที่ตั้งควรจะต้องสะดวกในการเดินทาง หรืออยู่บนถนน / แหล่งธุรกิจการค้า แหล่งท่องเที่ยวโดยคำนึงถึงเส้นทางที่นักท่องเที่ยวเดินทางผ่าน หรือ อยู่บนเส้นทางขากลับ ซึ่งนักท่องเที่ยวมักจะแวะซื้อสินค้า ของฝาก ก่อนจะกลับ โดยมีป้ายบอกให้ทราบล่วงหน้าอย่างชัดเจน
3. คู่แข่ง (Competitor - Threat)
สถานที่ตั้งศูนย์สินค้าโอทอปนั้น ควรจะต้องคำนึงถึงร้านค้าที่เป็นคู่แข่งในบริเวณใกล้เคียง ที่ขายสินค้าเหมือนๆกัน แต่มีราคาถูก อันเนื่องมาจากต้นทุนร้านค้าที่ต่ำกว่า เช่น ร้านที่บริเวณตลาดนัดจตุจักร ตลาดประตูน้ำ ร้านที่ทำเป็นเพิง เรียงราย กันอยู่ริมถนน หรือ ร้านค้าที่อยู่ในศูนย์สินค้าอื่นๆ อยู่ใน Plaza อื่นๆ เป็นต้น จะเห็นได้ว่า คนที่มาซื้อสินค้า โดยเฉพาะชาวต่างประเทศ เขาจะต้องการของที่ดีพอควรแต่มีราคาถูก และมีให้เลือกมากๆ
4. สถานที่จอดรถ
มีสถานที่จอดรถที่สะดวก กว้างขวาง และสามารถรับรถทัวร์ได้
5. สินค้าที่นำมาจำหน่าย และจัดแสดง
ควรมีสินค้าของจังหวัด และรวมสินค้าจากเครือข่ายโอทอปของจังหวัดอื่นๆด้วย เพื่อให้มีสินค้าที่หลากหลาย และมีจำนวนมากที่จะเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่เข้ามาชมได้ การจัดตกแต่งร้าน ควรจะต้องมีชั้นวางสินค้าที่ทันสมัย มีการรักษาความสะอาด ทั้งที่สินค้าและในอาคาร ถ้ามีงบประมาณเพียงพอ ควรจะต้องติดเครื่องปรับอากาศด้วย มิฉะนั้น สินค้าก็จะมีแต่ฝุ่นจับ
6. การติดต่อ ทางโทรศัพท์ โทรสาร และ อีเมล์
มีอุปกรณ์การติดต่อสื่อสารได้ทั้งทางโทรศัพท์ โทรสาร และ อีเมล์ และควรมีคอมพิวเตอร์ อย่างน้อย 1 - 2 เครื่อง เพื่อใช้ในการทำงานด้านต่างๆ เช่น การทำรายการสินค้า (Stock) ทำบัญชี รายงานการขาย และใช้ปรับปรุงข้อมูลสินค้า และเข้าอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
7. การติดต่อด้วยภาษาอังกฤษ
ผู้จัดการศูนย์ / พนักงาน ควรจะต้องมีความรู้ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน สามารถติดต่อกับชาวต่างประเทศได้ ในกรณีมาซื้อสินค้า หรือมีการสั่งสินค้าทางอินเทอร์เน็ต
8. Facilities ต่างๆโดยรอบศูนย์
ศูนย์ตั้งอยู่โดดเดี่ยว หรือมี Facilities อื่นๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่จูงใจให้มีคนมาแวะซื้อสินค้า และมีห้องน้ำ ที่สะอาด ไว้บริการ นอกจากนั้น มีบริการส่งของให้ด้วยหรือไม่
9. วัน เวลา เปิด - ปิด
เปิด - ปิดตามวัน เวลา ราชการ หรือเปิดทุกวัน โดยเฉพาะถ้าเป็นศูนย์ที่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว หรือมีการเดินทางท่องเที่ยวในวันหยุด ก็ควรจะต้องเปิดในวันเสาร์ - อาทิตย์ ด้วย
10. ป้ายบอกที่ตั้งศูนย์
ควรมีป้ายบอกตำแหน่ง ทางไปศูนย์ และระยะทาง โดยอาจจะติดตั้งริมทางหลวง หรือที่ซึ่งจะมองเห็นได้ชัด
11. การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ
มีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่ามีศูนย์สินค้า OTOP ระดับใด อยู่ที่ใด เช่น ศูนย์สินค้า OTOP ระดับจังหวัด ตั้งอยู่ที่ ... ศูนย์สินค้า OTOP ระดับอำเภอ ... ตั้งอยู่ที่ ... โดยจัดทำแผ่นพับ พร้อมทั้งมีแผนที่ประกอบ แจกจ่ายให้นักท่องเที่ยว ผู้ที่สนใจ ณ ศูนย์บริการการท่องเที่ยว หรือตามโรงแรมต่างๆ นอกจากนั้น อาศัยสื่ออินเทอร์เน็ต ในการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์
12. Web Site ของศูนย์สินค้า OTOP
จัดทำเว็บไซต์ของศูนย์สินค้า OTOP เพื่อเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก และสามารถรับการสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ต ทางอีเมล์ หรือทางโทรศัพท์ ได้ แต่ก็จะต้องมีคนดูแลรับผิดชอบเรื่องการ Update ข้อมูลสินค้าและสินค้าที่มีใน Stock หรือที่สามารถสั่งซื้อได้ รับผิดชอบเรื่องการรับ Order และการส่งของโดยเคร่งครัด เพราะเป็นเรื่องจุกจิก และเรื่องนี้ ก็มีคู่แข่งเช่นกัน เพราะมีหลายเว็บไซต์ที่ขายสินค้า OTOP โดยตรงอยู่แล้ว รวมทั้งการสั่งซื้อที่ไปรษณีย์ สำหรับศูนย์ขนาดเล็กที่ยังไม่มีงบประมาณและบุคลากรเพียงพอ ก็อาจติดต่อใช้บริการจากเว็บไซต์ไทยตำบลดอทคอมได้ ตัวอย่างข้อมูล หรือโฮมเพจของศูนย์สินค้า OTOP ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีแล้วในไทยตำบลดอทคอม ดูได้ที่นี่
หมายเหตุ : การตั้งงบประมาณสำหรับศูนย์สินค้า OTOP ในอดีต มักจะเน้นที่ ที่ดินและอาคารสิ่งก่อสร้าง ลงทุนกันมาก แต่ไม่ได้คำนึงถึงการลงทุนเรื่องการวางระบบงานและด้าน IT รวมทั้งการจัดให้มีบุคลากรที่มีความสามารถมารับผิดชอบ และเมื่ออนุมัติสร้างไปแล้ว ไม่มีการติดตามประเมินผลโดยหน่วยงานกลาง ซึ่งก่อนที่จะอนุมัติสร้างควรจะต้องตรวจดู Business Plan และผลตอบแทนการลงทุนก่อน เพราะถ้าโครงการดี บริหารดี สามารถอยู่รอดได้ ก็จะคุ้มกับเงินที่ลงทุนไป หรือถ้าไม่แน่ใจ ก็ให้ลงทุนทำศูนย์ขนาดเล็กๆไปก่อน
13. ศูนย์สินค้า OTOP กับระบบ e-Commerce
โดยทั่วๆไปศูนย์สินค้า OTOP มีสินค้าที่แสดงและจำหน่ายอยู่แล้ว และสินค้าบางรายการก็มี Stock สามารถขายในระบบ e-Commerce ได้ โดยมีทางเลือกในการชำระเงินได้หลายแบบ แต่ข้อควรระวังก็คือ ต้องมีการ Update สินค้าบ่อยมาก ทำเป็นงานประจำ ไม่ใช่งานฝาก ต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม และต้องส่งของที่ถูกต้อง มีคุณภาพให้ผู้ที่สั่งซื้อได้อย่างรวดเร็ว การทำระบบงาน e-Commerce นั้น ถ้าทำเองไม่ไหว ก็สามารถใช้บริการของบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องการขายสินค้าในระบบนี้ได้ แต่อย่าลืมปัญหา OTOP e-Commerce ยังมีอีกมาก โดยเฉพาะสินค้าหัตถกรรม (Handmade) ที่อาจจะผลิตได้ช้า และความไม่พร้อมต่างๆของกลุ่มผู้ผลิต
14. การบริหารงานของศูนย์สินค้า OTOP
ควรจะต้องพิจารณาเลือกระหว่างการที่รัฐ หรือทางราชการจะจัดการบริหารและทำด้านการตลาดเอง หรือ จะมอบหมายให้ภาคเอกชน เข้ามาบริหารจัดการ ทั้งนี้ การคัดสรรผู้ที่จะทำหน้าที่ผู้จัดการศูนย์และพนักงาน จะต้องกระทำอย่างดี การขายสินค้าของศูนย์ อาจจะไม่จำกัดอยู่ที่ภายในศูนย์เท่านั้น แต่ผู้บริหารศูนย์ อาจจะต้องร่วมในกิจกรรมด้านการตลาดอื่นๆได้ เช่น การออกร้าน ออกงาน เพื่อเผยแพร่สินค้า บริการ และประชาสัมพันธ์ศูนย์ OTOP